โปรโมชั่นเครื่องข่วยฟัง Cronos โปรโมชั่นเครื่องข่วยฟัง Cronos

วิธีเลือกเครื่องช่วยฟัง

รู้หรือเปล่า ว่าการได้ยินนั้นมีความสัมพันธ์กับระดับสติปัญญาโดยตรง นั่นคือหากโสตสัมผัส ประสาทการได้ยินของคุณเกิดบกพร่องหรือสูญเสียการได้ยินขึ้นมาเมื่อใด จะทำให้ประสิทธิภาพ การทำงาของสมองค่อยๆ ลดลงตามไปด้วยดังนั้นเครื่องช่วยฟังจึงเปรียบเสมือนเครื่องมือยับ ยั้งการเสื่อมถอยของสมองได้ด้วย

แต่เครื่องช่วยฟังนั้นมีหลายรุ่น หลายรูปแบบ และหลายราคาจะต้องเลือกแบบไหน วันนี้เราจึง อยากแนะนำวิธีการเลือกเครื่องช่วยฟัง เพื่อให้คุณได้เครื่องที่ฟังที่ดีที่สุด และเหมาะที่สุดสำหรับ ตัวคุณ ซึ่งในการเลือกซื้อเครื่องช่วยฟังควรคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้

1. คุณภาพและราคา

วิธีการเลือกเครื่องช่วยฟังอย่างแรกคือ ดูความสามารถ ในการจ่ายและคุณภาพของเครื่อง โดยปกติแล้วราคา ของเครื่องช่วยฟังจะมีหลายระดับด้วยกัน ตั้งแต่หลัก ร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น หรืออาจจะทะลุหลัก แสนก็มี ซึ่งราคาของเครื่องช่วยฟังมักจะแตกต่างกัน ที่คุณสมบัติ และเทคโนโลยีของเครื่องช่วยฟังแต่ละ เครื่อง ซึ่งเครื่องช่วยฟังระบบดิจิตอล และแบบปรับจูน ตั้งค่าด้วยคอมพิวเตอร์จะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นทั่วๆ ไป

2. การบริการหลังการขาย

การตรวจสอบและหาข้อมูลเกี่ยวกับบริการหลังการ ขายก่อนซื้อ เป็นอีกวิธีการเลือกเครื่องช่วยฟังเพราะ เครื่องช่วยฟังนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ไม่ใช่ว่าช่างที่ไหนก็สามารถซ่อมได้ อีกทั้งเครื่องช่วย ฟังมักมีขนาดเล็ก และอุบัติอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อที่เรา ไม่ได้คาดคิด ดังนั้นก่อนซื้อต้องตรวจสอบให้ละเอียด ก่อนว่า เครื่องช่วยฟังชิ้นนั้นๆ มีการรับประกันหรือไม่ รับประกันนานเท่าไหร่ สามารถส่งซ่อมได้ไหม และ สามารถส่งซ่อมได้ที่ไหนบ้าง สามารถคืนเงินได้ใน กรณีไหน เป็นต้น

3. พฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้

วิธีการเลือกเครื่องช่วยฟังวิธีต่อมาคือ การสังเกตุและ ดูพฤติกรรมของผู้ใช้ เป็นเพราะว่าเครื่องช่วยฟังนั้น มีหลายแบบ ทั้งแบบกล่องพกพา แบบคล้องหลังหู และแบบในช่องหู คุณจึงต้องสังเกตุดูพฤติกรรมว่า ผู้ใช้ต้องการแบบไหน เช่น หากเป็นคนที่อายุเยอะ เครื่องแบบเล็ก ๆ ข้างในหูอาจจะไม่สะดวกนัก เพราะ ขนาดที่เล็กจิ๋ว เมื่อผสานกับสายตาของผู้สูงอายุที่ไม่ ค่อยดีสักเท่าไหร่ อาจจะดูไม่เข้ากัรสักเท่าไหร่ หรือใน บางรายนั้นไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหน การเลือกเครื่อง ช่วยฟังแบบปกปิดจากสายตาอื่นก็อาจดูไม่ค่อยจำเป็น

4. อาชีพ และ อายุ ของผู้สวมใส่

โดยอาชีพของผู้ใช้นั้น ค่อนข้างสอดคล้องกับพฤติกรรม ในข้อ 3 แต่อาชีพนั้นอาจจะมีความจำเป็นในบางประการ ที่มากกว่า เช่นบางคนต้องทำงานที่รับฟังเสียงและต้อง พูดทั้งวันอย่าง คุณครู อาจจะต้องเลือกเครื่องช่วยฟัง ที่รับฟังเสียงชัดเจน เพื่อจะได้ฟังบทสนทนากับนักเรียน ได้ชัดเจน โดยปกติครูก็อยู่ในพื้นที่ปิด หรืออยู่ในห้องอยู่ แล้วโปรแกรมลดเสียงลม เสียงรบกวน อาจจะไม่ตอบ โจทย์มากนัก ดังนั้นวิธีการเลือกเครื่องช่วยฟังจึงต้อง ควรคำนึงถึงอาชีพและอายุ ของผู้ที่สวมใส่ด้วย

5. ระดับการสูญเสียการได้ยิน

พลังเสียง ความถี่ และความดังของเครื่องช่วยฟัง ในแต่ละรุ่นนั้นไม่เหมือนกัน หากเราไปเลือกเครื่อง ช่วยฟังที่ดังเกินไปอาจจะยิ่งไปทำลายประสาทการ ได้ยินมากกว่าเก่า หรือหากเบาเกินไปก็อาจจะไม่ช่วย อะไรมาก เพราะฉะนั้นการเลือกเครื่องช่วยฟังตาม ระดับการสูญเสียการได้ยิน จึงเป็น วิธีการเลือก เครื่องช่วยฟังที่จำเป็นมาก
การเลือกเครื่องช่วยฟัง อาจไม่ได้มีเพียงแค่ 5 วิธีนี้เท่านั้น ขึ้นอยู่ปัจจัยต่างๆ ที่แตกต่างกันไป ของแต่ละคน ทั้งนี้ทั้งนั้นวิธีการเลือกเครื่องช่วยฟังที่ดีที่สุด คือ การตรวจกับนักโสตสัมผัสวิทยา (นักแก้ไขการได้ยิน) โดยตรง เพราะนักโสตคือผู้เชี่ยวชาญเรื่องการได้ยิน พวกเขาจะเจาะหาสา เหตุต้นตอของอาการ และสามารถเลือกเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมและดีกับคุณมากที่สุดให้ได้ อีกด้วย